รีวิวบุฟเฟ่ต์ ของห้องอาหาร Ventisi โรงแรม Centara Grand CentralWorld

เมื่อปลายปี 2020 ผมได้ไปทานห้องอาหารนานาชาติ Ventisi ที่มีทั้ง อาหาร อิตาลี ยุโรป ไทย ครบเต็มไลน์อาหาร วันที่ผมไป คือ หลังจากห้องอาหารเปิดให้บริการครั้งแรกประมาณ 2 วัน ตัวไลน์อาหารยังเป็นแบบบุฟเฟ่ต์อินเตอร์อยู่ แต่ได้ข่าวว่าจะมีการปรับเปลี่ยน จากบุฟเฟ่ต์เป็นแบบจานเดียว (a la carte) ในปี 2021
เพราะฉะนั้นไลน์อาหารอาจมีการเปลี่ยนแปลง ผมแนะนำให้ติดต่อสอบถามข้อมูลกับทางร้านอาหารก่อนจะดีที่สุดครับ

รีวิวอาหารจาก ห้องอาหาร Ventisi แยกเป็นโซน

ด้วยความที่เป็นบุฟเฟต์และอาหารค่อนข้างเยอะพอสมควร มีการแบ่งหลายโซน ไม่ว่าจะเป็น โซน Appetizer โซนอาหารไทย โซนอาหารอิตาลี โซนขนม โซนญี่ปุ่น โซนซีฟู้ด เพราะฉะนั้นเราจะแบ่งรีวิวกันเป็นโซนและประเภทของอาหารไปนะครับ โดยจะแบ่งเป็น Station ของอาหารแต่ละประเภทไปเลย ซึ่งดีครับ ทำให้การเดินตักอาหารของลูกค้าไม่เบียดเสียดแย่งกัน

โซนอาหารเรียกน้ำย่อย (Appetizer)

ในโซนจะมีพวก Cold cut ต่างๆ พวกแฮม ซาลามี่ สลัดและชีส รวมไปถึงขนมปังให้ทานเล่นก่อนรวมอยู่ในโซนนี้ แต่ที่แปลกอาจจะเป็นการจัดวางอาหาร ที่มีอาหารทะเลวางอยุ่ด้วย อันนี้ไม่ว่ากันเพราะอาจจะเป็น Layout ของร้านที่ออกแบบมาแล้ว ทีนี้เรามารีวิวโซนอาหารเรียกน้ำย่อย (Appetizer) ของห้อง Ventisi เป็นส่วนๆไปกันครับ

  • Cold Cut รสชาติได้ตามมาตราฐาน ทานเพลินๆกับสลัดและผักต่างๆได้เลย
  • สลัด สลัดมีแบบที่ให้ทำเองและทำไว้อยู่แล้ว ซึ่งรสชาติบางอย่างอาจจะไม่คุ้นเคยสำหรับคนไทยไปซักนิด แต่รสชาติดีครับ
  • ขนมปัง ชืดไปหน่อย บางอย่างออกเหนียวแล้ว ข้ามได้ก็ข้ามไปเถอะครับ มีอย่างอื่นให้ทานอีกเยอะ

โซนอาหารไทย

สำหรับอาหารไทย รสชาติดีเลยครับ เป็นรสชาติที่ทำให้คนไทยทาน ไม่ใช่ให้ต่างชาติทาน มีเชฟยืนคอยแนะนำอาหารตลอดเวลา มีอาหารบางอย่างที่อาจจะดูธรรมดา แต่บอกได้เลยว่ารสชาติไม่ธรรมดาและต้องใช้เวลาในการทำสูงมาก เช่น พะโล้แห้ง ซึ่งไข่พะโล้นี่แหละครับ ที่ผมชอบมาก ไข่พะโล้ที่ดี ไข่ขาวต้องสีเข้มและแข็งครับ ซึ่งเชฟที่นี่ใส่ใจในการทำตรงนี้ได้ดีมาก แอบถามเชฟ เชฟบอกต้มไฟอ่อนมากๆตั้งแต่เช้าเพื่อเอามาเสริฟตอนเย็นกันเลยทีเดียว และโซนอาหารไทยนี้ยังมีข้าวสวยให้เลือกหลายรูปแบบตามแต่ที่เราชอบและอยากลองด้วยครับ

จุดที่จะตำหนินิดนึงจากความคิดเห็นส่วนตัวที่ทานในวันนั้น คือ ตัวต้มโคล้งปลาทอดเท่านั้นครับ ด้วยความที่เป็นปลาชุบแป้งทอด การที่เอาลงไปต้มทิ้งไว้ตลอดเวลา ทำให้ผิวแป้งทอดนั้นเรียกได้ว่าขึ้นอืดเละกันเลยทีเดียวและมันทำให้น้ำต้มโคล้งเหนียวข้นขึ้นอีกด้วย

โซนอาหารอิตาลี

จริงๆอยากจะเรียกว่าโซนพาสต้ามากกว่า เพราะว่าโซนนี้ตอนที่ไปทาน คือ มีแต่พาสต้าและรีซอตโต้ สำหรับตัวพาสต้าที่ทำกับซอสมารีเนร่าหรือซอสมะเขือเทศนั้น ผมว่ารสชาติเฉยๆ ใครอยากลองทานดูก็ทานได้ครับ ส่วนพวกครีมซอสทำมาได้รสชาติค่อนข้างดี และที่ชอบในวันนั้น คือ รีซอตโต้ ซึ่งปกติแล้วไลน์อาหารบุฟเฟต์โรงแรมอื่นๆจะไม่มีรีซอตโต้อยู่ในไลน์ เนื่องจากตัวรีซอตโต้นั้นพอวางนานๆแล้วจะอืด และถ้าไม่มีอะไรมาปิดหรือครอบไว้ ตรงหน้าจะเกิดแผ่นฟิล์มเกาะตัวกันเป็นก้อนดูไม่น่าทาน รีซอตโต้จึงเป็นอาหารที่ควรทานตอนร้อนๆดีที่สุด
ซึ่งทาง Ventisi ทำได้ดีครับ ทำครั้งละ1 กะทะ ในจำนวนน้อยและนำมาวางไว้พร้อมปิดฝา เมื่อหมดจึงทำใหม่ ถือว่ามีความใส่ใจในเมนูนี้ในระดับที่ดีเลยครับ ขออภัยที่ไม่ได้ถ่ายรีซอตโต้มาให้ดูครับ

โซนอาหารยุโรป

ทางโซนอาหารยุโรปของ Ventisi ผมก็อยากจะบอกว่า รสชาติดีครับ เป็นอาหารฝรั่งที่รสชาติดีเลย เพียงแต่ว่าอาจจะเป็นอาหารที่ไม่คุ้นเคยกับคนไทยเท่าไหร่ รวมถึงอาจจะเป็นรสชาติที่ไม่คุ้นเคยสำหรับผู้ที่มีอายุนิดนึง แต่สำหรับวัยรุ่นวัยทำงานที่เคยทานร้านอาหารมามากและหลากหลาย มีความเปิดใจในอาหาร ผมว่าควรลองครับ เช่น ตัวหมูทอดที่วางคู่กันกับซอสที่เหมือน Minestrone หรือซุปผักของอิตาลี จริงแล้วมันไม่ใช่ Minestrone ครับ มันเป็นซอสที่ไว้ราดตัวหมู Pork Cutlet ที่ชุปแป้งบางๆทอดนี่แหละ ตัวซอสจะออกรสชาติและกลิ่นของ Bell Pepper หรือพริกหยวกซะมากหน่อย บางท่านอาจจะไม่ชอบหรือไม่คุ้นเคย แต่มันเข้ากันดีกับตัวหมูทอดครับ ส่วนของไก่อบ ผมไม่ได้ทานครับ เนื่องจากดูแห้งไปนิด ผมทานเป็นสตูแกะแทน รสชาติดีทีเดียว และที่น่าสนใจอีกอย่าง คือ ปลาครับ เป็นปลาทั้งตัวที่นำไป Broil หรือการย่างในเตาอบ จนหนังปลาดูกรอบ เนื้อปลาดูน่าทาน เป็นจานที่หน้าตาดีและรสชาติดีด้วยครับ

โซนอาหารญี่ปุ่น

ผมอยากจะเรียกว่าเค้าน์เตอร์มากกว่า แต่เอาเป็นว่าผมจะเรียก ซูชิบาร์ แทนละกันนะครับ ตรงจุดนี้จะมีซุป มีซาชิมิ โรลต่างๆ ซูชิเป็นคำและ Temaki Sushi หรือข้าวห่อสาหร่ายทรงกรวยนี่แหละครับ ตรงที่ซูชิบาร์นี้ ปกติผมจะไม่ได้คาดหวังเรื่องความสดของเนื้อปลาหรือตัวข้าวอะไร แต่หลังจากที่ลองทำให้พบว่าตัวข้าวที่นี่ค่อนข้างอร่อยและได้มาตราฐานเป็นอย่างดี ไม่แฉะไป ไม่แข็งไป รสไม่จัดไป ถือว่าใส่ใจในเรื่องข้าวได้ดีครับ แต่ติดตรงสาหร่ายที่พัน Temaki มาให้ มันเหนียวไปนิดนึง ส่วนตัวเนื้อปลาดิบก็ตามมาตราฐานบุฟเฟต์โรงแรมครับ ที่จะเป็นปลาฟรีสมาพอมีรสชาติ ทำการละลายน้ำแข็งได้ดี แต่ก็ไม่ใช่สดๆแล่เป็นๆ ถ้าใครคาดหวังเรื่องความสดขนาดนั้น ผมแนะนำไปทานร้านซูชิเลยครับ ไม่ต้องมาบุฟเฟต์อินเตอร์ตามโรงแรมหรอกครับ ขออภัย โซนนี้ผมก็ไม่ได้ถ่ายมาครับ เนื่องจากเป็นเค้าน์เตอร์และอาหารส่วนใหญ่ทุกคนน่าจะคุ้นเคยกันอยู่แล้ว

โซนขนมหวานและเบเกอรี่

เท่าที่ผมรู้สึกคือโซนนี้น่าจะเป็นไฮไลท์พระเอกของห้อง Ventisi ครับ เนื่องจากความหลากหลายของขนมชนิดต่างๆและการจัดวางที่อลังการเป็นพิเศษ ตัวขนมทำออกมาได้ค่อนข้างดี ได้รับคำชมจากเชฟขนมที่ไปด้วยกันกับผม แต่มีการตำหนิเพียงอย่างเดียวคือ ความหวาน ที่หวานจริงๆ หวานจนคนไม่ใช่สายขนมแบบผมเลี่ยนกันเลยทีเดียว แต่เข้าใจว่าเป็นขนมสไตล์อิตาลี จากชนิดของขนม กรรมวิธีและความหวานเป็นพิเศษแตกต่างกับขนมชาติอื่นๆใกล้เคียงในยุโรป

ตัวไอศครีม Gelato ก็ทำได้ดีเลยครับ รสชาติไม่ได้หวานจัดเหมือนขนมแบบอื่นๆ กินเพื่อให้สดชื่นล้างปากได้ แต่ละรสชาติของ Gelato แยกกันอย่างชัดเจน ไม่เหมือนบุฟเฟต์บางแห่งที่มีไอศครีมเสริฟ แต่รสชาติเบสเป็นนมแบบเดียวกันหมด แตกต่างแค่กลิ่น ที่ Ventisi นี้ ตัว Gelato ผ่านเรื่องรสชาติ สัมผัส อย่างสบายๆเลยครับ

เครื่องดื่ม

ตัวบุฟเฟต์ที่ทาน รวมไปถึงเครื่องดื่ม น้ำเปล่า ชา กาแฟ น้ำอัดลม และไวน์ เรียบร้อยครับ

การบริการของห้องอาหาร Ventisi

ตรงนี้ผมต้องบอกอีกครั้งนะครับว่า ผมไปหลังจากห้องอาหารเปิดมาได้เพียงแค่ 2 วัน สิ่งที่ผมเจอสามารถเกิดได้กับร้านอาหารเปิดใหม่ทุกที่ เพราะฉะนั้นในครั้งนี้ที่ผมไปทาน มันยังไม่ใช่ข้อเสียครับ สิ่งที่ผมเจอวันนั้น คือ ความงุนงง สับสนของพนักงาน ทั้งพนักงานเสริฟและพนักงานครัวที่ยืนประจำ Station ต่างๆ

ส่วนการบริการของพนักงานเสริฟ

ผมถามพนักงานเสริฟ เกี่ยวกับเครื่องดื่ม ซึ่งน้องน่าจะยังจำไม่ได้ จนต้องเรียกพนักงานอีกท่านมาช่วยกัน แต่การที่จำไม่ได้ ทำให้เกิดปัญหาอีกอย่าง คือ ห้องอาหาร Ventisi นี้ ตัวบุฟเฟ่ต์จะรวมเครื่องดื่มต่างๆมาให้แล้ว แต่หลังจากที่สอบถามพบว่า ตัวน้ำอัดลมที่สามารถสั่งได้ ไม่รวมไปถึง น้ำอัดลมประเภท Diet ต่างๆ ซึ่งไม่ได้แจ้งก่อนกับทางโต้ะผม และตอนสั่งน้องพนักงาน น้องพนักงานก็ไปนำมาเลย ตรงส่วนนี้ก็โอเคครับ เข้าใจว่ามันเป็นรายละเอียดปลีกย่อยที่อาจจะยังจำไม่ได้ ก็ไม่ว่ากัน ก็คิดเงินกันไป น้องจะได้ไม่ต้องมารับผิดชอบตรงนั้น
ทีนี้มาถึงตัว ชาและกาแฟกันบ้าง ก็เช่นเดิมครับ พนักงานจำไม่ได้ว่ามีชาอะไรบ้าง ส่วนเรื่องกาแฟ มีตะหงิดนิดนึงกับการใช้คำพูดนิดหน่อย เนื่องจากพ่อผมก็อายุเยอะ ซึ่งในยุคเค้าตัวกาแฟไม่ได้รับวัฒนธรรมตะวันตกเหมือนสมัยนี้ ที่มีกาแฟกันทั่วทุกหัวระแหงและมีเมนูต่างๆมากมาย ทำให้แกสั่งกาแฟไม่ถูก แกสั่งเพียงแค่ว่า ขอกาแฟครับ แต่พนักงานกลับถามว่า จะทานแบบไหนครับ ซึ่งเป็นคำถามที่ถูกครับ แต่ควรดูนิดนึงว่า ควรถามกับผู้ที่อายุเยอะไหม และถ้าผู้ที่ถูกถามมีอาการ งง กับคำถาม ทางพนักงานควรบอกว่ามีอะไรบ้าง ต่างกันอย่างไร หรือบีบจำนวนตัวเลือกให้น้อยที่สุดเท่าที่เหมาะสมกับวัยของลูกค้าท่านนั้นๆ ผมจึงต้องเป็นคนที่สั่งกาแฟให้แทน ใครที่ไปพร้อมกับผู้อาวุโส อาจจะต้องสั่งให้แทนในบางอย่างนะครับ
ส่วนเรื่องไวน์ ทางร้านมีเสริฟทั้งไวน์แดงและขาว แบบ Free Flow แต่ไว้ดื่มกันเล่นๆนะครับ อย่าไปคาดหวังอะไรมาก อยากทานไวน์อร่อยๆไปแวะซื้อข้างนอกระหว่างทางกลับบ้านเถิดครับ

ส่วนการบริการของพนักงานครัวประจำ Station

ใน Station ของอาหารไทย และอิตาลีไม่มีปัญหาอะไรครับ อาจจะเพราะเชฟที่ cook ยืนประจำอยู่ตรงนั้นเลย ที่มีปัญหาจะเป็นส่วนของขนมและอาหารยุโรปมากกว่า ในส่วนอาหารยุโรปผมได้มีการถามว่า อันนี้ทานกับอันนี้ใช่ไหม และเมนูนี้ใส่อะไรบ้าง แต่ทางพนักงานที่ยืนประจำ Station นั้นไม่มีการตอบรับใดๆ และไม่มีการแนะนำใดๆทั้งสิ้น ซึ่งไม่ทราบว่า งง อะไรกับคำถาม แต่ผมก็เข้าใจได้ว่าเจ้าตัวอาจจะไม่รู้และไม่กล้าตอบ เนื่องจากโซนอาหารยุโรปเป็นอาหารที่ทำออกมาจากครัวด้านหลัง ซึ่งคนทำอาหารเป็นอีกคนนึง แต่ร้านอาหารที่ดีต้องมีการอบรมและการจัดการพนักงานในเรื่องของอาหารที่ถูกต้องและตอบคำถามได้ ซึ่งตรงนี้ผมเห็นว่าควรปรับปรุง และเหตุการณ์นี้ก็เกิดเช่นเดียวกันกับโซนขนมและเบเกอรี่เช่นกัน ที่พนักงานไม่ทราบว่าอะไรคืออะไร รสชาติประมาณไหน ทำให้ไม่สามารถแนะนำอะไรได้ รวมถึงบางอย่างที่ค่อนข้างตักยาก และพนักงานไม่รู้วิธีตักด้วยซ้ำว่าต้องตักอย่างไรถึงจะไม่เละ เช่น ทิรามิสุ ที่เสริฟมาในไลน์ ไม่ได้วางไว้เป็น portion เหมือนที่อื่นๆแต่เสริฟมาแบบดั้งเดิม คือ มาในชามเปลกระเบื้อง ซึ่งดีครับ หน้าตาดีเลยรสชาติโอเคด้วย แต่ตักยากครับ เละแน่นอนสำหรับลูกค้าที่ตักไม่เป็นย่อมตักกันเละเทะแน่นอน

ที่อยู่ของ ห้องอาหาร Ventisi โรงแรม Centara Grand CentralWorld

สถานที่ตั้ง : อยู่ที่ชั้น 24 ของโรงแรม Centara Grand CentralWorld
เปิด-ปิด : เวลา 18.00 – 22.30
จองและสอบถามรายละเอียด
เว็บไซต์ : http://www.centarahotelsresorts.com/centaragrand/cgcw/

ราคาบุฟเฟต์ ณ วันที่ผมไปทาน

ราคา 2,999++ สำหรับผู้ใหญ่
รวมอาหารและเครื่องดื่ม

ราคา 1,499++ สำหรับเด็กอายุ 5-11 ปี
รวมอาหารและเครื่องดื่ม

เด็กอายุ 0-4 ขวบ ทานฟรี

การเดินทางและที่จอดรถของ Ventisi

เดินทางด้วยรถยนต์ สามารถมาจอดเหมือนมาชอปปิ้งซื้อของที่เซ็นทรัลเวิลด์ได้เลยครับ แต่ถ้าอยากได้ลิฟท์ตรงไปโรงแรมให้ไปที่

  • โซนสีเหลือง สำหรับที่จอดรถชั้นใต้ดิน จะมีลิฟท์ตรงขึ้นไปเลย
  • จอดที่อาคารจอดรถด้านบน ให้ไปที่ลิฟท์ทางขวาสุดของลานจอด
    จะเป็นลิฟท์ตัวเดียวกับที่มาจากโซนจอดรถชั้นใต้ดินครับ

เวลากดลิฟท์จะต้องกดไปที่ชั้น 23 ก่อนนะครับ แล้วไปต่อลิฟท์ภายในโรงแรมเพื่อไปชั้น 24 อีกทีนึง
ส่วนถ้าใครอยากจะลงมาชอปปิ้งต่อ หรือ ซื้ออาหารที่ซุปเปอร์มาเก็ต ก็ลงลิฟท์ตัวเดิมมาที่ชั้น 7 เพื่อเข้าห้างได้เลยครับ

เดินทางด้วยรถไฟฟ้า สามารถลงที่สถานีชิดลมหรือสยามก็ได้ครับ แล้วเดิน Skywalk เข้ามาที่ตัวห้างเซ็นทรัลเวิลด์ แล้วไปหาลิฟท์ขึ้นโซนโรงแรมอีกทีครับ จะขึ้นไปที่ชั้น 7 เลยก็ได้ครับ ตรงส่วนซุปเปอร์มาเก็ตฝั่งทางออกลานจอดรถจะมีลิฟท์ที่ต่อขึ้นไปโรงแรม Centara อยู่

Similar Posts