ประโยชน์ของวิตามินซี กินตอนไหนดีที่สุด กินแล้วขาวจริงไหม

อย่างที่รู้กันตั้งแต่เด็กๆแล้วว่าผลไม้เป็นแหล่งที่ทำประโยชน์ของวิตามินซีที่ดีมาก เดี๋ยวเราจะพาไปรู้จักวิตามินซีกันแบบละเอียด แล้วเรามาดูกินว่าการกินวิตามินซีตอนไหนดีที่สุด กินแล้วขาวไหม ผลไม้วิตามินซีสูงคือผลไม้อะไรบ้าง หรือว่าเอามาทาหน้าทาผิวแล้วได้ผลอย่างไร

เริ่มจากวิตามินซี คืออะไร

วิตามินซี หรือ Vitamin C เป็นวิตามินที่ร่างกายมีความต้องการสูง เพราะนอกจากจะเอามาเสริมสร้างภูมิต้านทาน ต่อต้านอนุมูลอิสระและช่วยบำรุงผิว ทุกคนเลยควรจะได้รับวิตามินซีให้เพียงพอที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน ซึ่งเอาจริงๆเราก็หาวิตามินซีจากธรรมชาติได้ง่ายโดยการรับประทานผลไม้รสเปรี้ยว เพราะผลไม้รสเปรี้ยวจะมีวิตามินซีสูงเป็นพิเศษ แต่ถ้าไม่ค่อยรับประทานผลไม้ก็ไปกินวิตามินซีเม็ดเสริมเข้าไปแทนก็ได้ แต่ควรระวังในการรับประทานเยอะเกินไป

ประโยชน์ของวิตามินซี

วิตามินซี เป็นวิตามินที่เรียกว่า Water Soluble หรือในภาษาไทยคือ มันสามารถละลายน้ำได้นี่เอง ทำให้ซึมซับเข้าร่างกายได้อย่างรวดเร็ว และยังช่วยเพิ่มพลังในการดูดซึมธาตุเหล็ก ทำให้คนที่ขาดแคลนธาตุเหล็กควรจะกินวิตามินซีเพิ่ม แต่ควรระวังเรื่องความเครียดด้วย เพราะจะทำให้วิตามินซีสลายไปอย่างรวดเร็วและเมื่อสลายแทนที่วิตามินจะไปช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระชะลอริ้วรอย ก็ไม่เหลือวิตามินซีที่จะมาช่วยอะไรเลย เรามาลองจำแนกดูเป็นข้อๆดูดีกว่า ว่าวิตามินซีช่วยอะไรบ้าง

• ต่อต้านอนุมูลอิสระ ชะลอการริ้วรอยก่อนวัย เสริมสร้างให้ผิวมีความเปล่งปลั่งเต่งตึงสดใสจากภายใน
• เป็นยาระบาย แก้ปัญหาท้องผูก แต่ถ้ากินมากไปอาจท้องเสียแทน
• ช่วยลดความเสี่ยงมะเร็ง วิตามินซีจะทำหน้าที่ในการยับยั้งเซลล์ที่ผิดปกติไม่ให้เติบโต และกำจัดสิ่งแปลกปลอมให้ออกจากร่างกาย
• เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ป้องกันไม่ให้เราติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย ที่เป็นต้นเหตุของไข้หวัดหรืออาการอื่นๆ
• ป้องกันโรคลักปิดลักเปิด แก้ปัญหาเลือดออกตามไรฟัน
• เพิ่มอัตราการดูดซึมธาตุเหล็ก
• ช่วยในการสร้างคอลลาเจนและซ่อมแซมเนื้อเยื้อในร่างกายทำให้แผลหายเร็วยิ่งขึ้น

อาการขาดวิตามินซี

• จะเริ่มมีเลือดออกตามไรฟันสังเกตุได้จากปวดเหงือกบ่อยๆ หรือเลือดไหลง่ายๆตอนแปรงฟัน เป็นอาการเริ่มต้นของโรคขาดวิตามินซีหรือโรคลักปิดลักเปิดนี่แหละ
• เจ็บกล้ามเนื้อ และเริ่มอาการอ่อนแรง ปวดกล้ามเนื้อแปลบๆบ่อยๆ
• ปากแห้งแตกเป็นขุยและแผลหายช้ากว่าปกติ
• อ่อนเพลีย อยากนอนไม่สดชื่น เบื่ออาหารกินอะไรไม่ค่อยลง
• ผิวแห้งกร้าน เพราะว่าขาดคอลลาเจนที่จะช่วยอุ้มให้ผิวดูสดชื่นเต่งตึง
• ภูมิต้านทานต่ำเป็นหวัดเป็นนู่นเป็นนี่ง่าย เสี่ยงต่อการติดเชื้อแบคทีเรียและไวรัส

วิธีกินวิตามินซี

วิตามินซีเป็นวิตามินที่ไม่สามารถสังเคราะห์ได้เองตามธรรชาติ และด้วยความที่มันมีคุณสมบัติในการละลายน้ำ ทำให้ไม่สะสมในร่างกายเพราะขับออกได้ทางปัสสาวะ แต่ถ้าคุณมีโรคไตอยู่ก็ความหลีกเลี่ยงที่จะ<em>การกินวิตามินซี</em>ในปริมาณมากๆ เพราะอาจทำให้เกิดนิ่วในไตและอาการแย่ขึ้น หรือการกินวิตามินซีในปริมาณมากๆจนเกินไปทำให้การตรวจวินิจฉัยโรคบางโรคผิดพลาดได้ โดยเฉพาะพวกโรคที่ต้องตรวจปัสสาวะ ซึ่งปกติแล้วระบบในร่างกายคนเราต้องการวิตามินซีประมาณ 60mg แต่ถ้าต้องการมากกว่านั้นเราก็สามารถกินได้ถึง 2000mg เพื่อประโยชน์ด้านอื่น เช่น การรักษาหรือป้องกัน

วิตามินซีกินตอนไหนดีที่สุด

วิตามินซีควรแบ่งเป็นกินหลายครั้งใน 1 วัน เพราะว่าวิตามินซีเราสามารถดูดซึมได้แค่ไม่เกิน 500mg ต่อครั้ง จะกินตอนไหนก็ได้แต่ควรกินหลังอาหาร เพราะด้วยรูปแบบของวิตามินซ๊มีฤทธิ์เป็นกรด คือมันไม่ได้ถึงขนาดทำให้กะเพาะทุละอะไรขนาดนั้น แต่มันจะระคายเคืองกะเพาะอาหารเฉยๆ แต่ถ้าเป็นผลไม้ก็ยังโอเค แต่แนะนำให้กินช่วง 9-10โมงเช้า หลังอาหาร

ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง

1. มะขามป้อม 1 ขีด มีวิตามินซ๊ 276mg
2. ฝรั่ง 1 ขีด มีวิตามินซ๊ 160mg
3. กีวี 1 ขีด มีวิตามินซ๊ 105mg
4. ลิ้นจี่ 1 ขีด มีวิตามินซ๊ 71mg
5. มะละกอ 1 ขีด มีวิตามินซ๊ 70mg
6. สตรอเบอรี่ 1 ขีด มีวิตามินซ๊ 66mg
7. เงาะ 1 ขีด มีวิตามินซ๊ 53mg

อาหารที่มีวิตามินซีสูง

1. พริกหวาน 1 ขีด มีวิตามินซ๊ 80mg
2. บรอคโคลี 1 ขีด มีวิตามินซ๊ 89mg
3. คะน้า 1 ขีด มีวิตามินซ๊ 147mg
4. ปวยเล้ง 1 ขีด มีวิตามินซ๊ 120mg
5. มะรุม 1 ขีด มีวิตามินซ๊ 141mg

วิตามินซีรูปแบบอาหารเสริม

• แบบเม็ด มีแบบเม็ดธรรมดาและแบบละลายที่จะค่อยๆละลายปล่อยออกมา
• แบบเม็ดอม เหมาะสำหรับคนที่กลืนลำบาก แต่อาจกัดฟันได้
• แบบเคี้ยว เหมาะสำหรับเด็ก แต่น้ำตาลสูง
• แบบเม็ดฟู่ ทานง่ายเอาไปละลายใส่น้ำ แต่อาจท้องอืดแน่นท้อง
• แบบแคปซูล เหมาะสำหรับคนคนที่กลืนยาก
• แบบสารละลาย ไว้ฉีดไม่ได้ไว้กิน ต้องให้หมอหรือพยาบาลฉีดให้

วิตามินซีตัวไหนกินแล้วขาว

ถ้าจะถามว่ากินวิตามินซีตัวไหนแล้วขาว คงจะตอบได้ยากถ้าจะเฉพาะเจาะจงยี่ห้อขนาดนั้น เพราะการทำงานของวิตามินซีเองช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งไอ้เจ้าอนุมูลอิสระนี่มันไปกระตุ้นให้สร้างเม็ดสีเมลานิน การที่วิตามินซีมันไปต่อต้านยับยั่งการทำงานของอนุมูลอิสระได้ ก็ทำให้ผิวขาวขึ้นเป็นปกติ แต่ควรจะกินร่วมกับวิตามินอีด้วย แต่ที่ต้องทำเป็นประจำคือ ทาครีมกันแดดด้วยไม่งั้นก็ไม่มีประโยชน์อะไร และที่สำคัญเราไม่สามารถขาวไปได้มากกว่าผิวโดยกำเนิดของเราได้ ถ้าเกิดมาผิวคล้ำที่วิตามินซีช่วยได้คือทำให้มันกลับไปเหมือนสีผิวเราตอนเด็กๆ รักษาตรงที่เราโดนแดดมา แต่ที่ช่วยเห็นผลเลยคือ ผิวจะดีขึ้นชุ่มชื้นละเอียดขึ้น ส่วนการเลือกวิตามินซีนั้น ให้เลือกที่ใกล้เคียงกับธรรมชาติที่สุด

กินวิตามินซี ยี่ห้อไหนดี

ยี่ห้อไหนก็ดี ถ้าคุณเลือกถูกต้อง โดยให้เน้นไปที่ส่วนประกอบของวิตามินซีและบรรจุภัณฑ์ ในตลาดบ้านเราก็มีหลายสูตรอยู่ แต่สูตรที่ใกล้เคียงธรรมชาติจะมีสารสำคัญอยู่สองตัวที่ควรจะดูคือ 1. Bioflavonoids : Citrus, Hesperidin, Rutin 2.Rosehips และเวลาซื้อให้ตรวจดูด้วยว่าให้วิตามินซีเท่าไหร่กันแน่ เพราะบางยี่ห้อเขียนคลุมเคลือมาก แต่ส่วนมากยี่ห้อหลักๆในตลาดจะเขียนอยู่แล้วว่า Total Vitamic C กี่ mg บางเจ้าเขียนแค่ส่วนผสมว่ามีอะไรปริมาณเท่าไหร่ แต่ไม่ได้บอกว่าส่วนผสมที่บอกนั้น ให้วิตามินซีกับเรากี่ mg กันแน่ ถ้าเขียนแบบนี้ให้หลีกเลี่ยงซะ เพราะต้องมานั่งคำนวนอีก ตอนเลือกให้เลือกรวมไปถึงรูปแบบของตัวเม็ดว่ามี film coated หรือไม่ เพื่อรักษาคุณสมบัติของตัววิตามินซี และยังเรื่องบรรจุภัณฑ์อีกว่า สีเข้มหรือสีทึบไหม เมื่อเปิดแล้วตอนปิดสามารถกันอากาศได้ไหม เพราะเมื่อวิตามินโดนอากาศหรือแสงมากๆ จะทำให้เสื่อมสภาพ คราวนี้ก็มาเลือกว่าเราควรกินประมาณเท่าไหร่ดีในแต่ละครั้ง 500 mg หรือ 1000 mg ดีกว่ากันสามารถดูได้จากวีดีโอข้างล่างของ Blackmore ได้เลย

สุดท้ายก็หวังให้ทุกคนสุขภาพดีกันถ้วนหน้า ถ้ามีเวลากินอาหารก็เลือกกินให้ครบๆ 5 หมู่จะดีที่สุด